บริษัทเครือข่ายที่มาเช่าพื้นที่ติดตั้งเสาสัญญาณ มักจะส่งหนังสือต่อสัญญามาให้คุณ โดยหนังสือนี้มักระบุเพียงช่วงเวลาในการต่อสัญญา ค่าเช่าที่ปรับเพิ่มขึ้นตามอัตราในสัญญาเก่าที่กำลังจะหมดอายุ และเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ยังคงยึดตามสัญญาเดิม
หลายครั้งเจ้าของที่ไม่ได้ตอบรับทันทีเพราะมีเรื่องอื่นต้องจัดการ ตัวแทนผู้เช่าจึงโทรมาตามและเร่งรัดว่า “ใกล้หมดเวลาแล้ว ต้องรีบเซ็นนะ”
ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้กับคุณ คุณควรทำอย่างไร?
บางคนได้รับหนังสือต่อสัญญา บางคนไม่ได้รับ นี่อาจขึ้นอยู่กับการทำงานของตัวแทนผู้เช่า แต่ไม่ว่าคุณจะได้รับหรือไม่ คำถามสำคัญคือ:
ถ้าสัญญาหมดอายุแล้ว แต่ยังไม่ได้เซ็นใหม่ จะเกิดอะไรขึ้น?
คำตอบอยู่ในกฎหมาย
มาตรา 570: หากสัญญาหมดอายุ แต่ผู้เช่ายังคงใช้พื้นที่ และผู้ให้เช่ารู้อยู่แล้วแต่ไม่ทักท้วง จะถือว่าเป็นสัญญาใหม่ที่ “ไม่มีกำหนดเวลา”
มาตรา 566: หากสัญญาไม่มีการกำหนดเวลา ทั้งสองฝ่ายสามารถบอกเลิกได้ตลอดเวลา โดยแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 รอบการชำระค่าเช่า แต่ไม่เกิน 2 เดือน
สรุป: หากคุณยังไม่เซ็นสัญญาใหม่ ผู้เช่าก็ยังต้องจ่ายค่าเช่าเดิมต่อไป และคุณมีสิทธิ์เลิกสัญญาหรือเจรจาใหม่ได้ตลอดเวลา
ทำไมเรื่องนี้สำคัญ?
ทุกครั้งที่มีการต่อสัญญา บริษัทผู้เช่าจะมีค่าใช้จ่าย เช่น ค่าตัวแทน ค่าทนาย และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ดังนั้นหากพวกเขาและต้องการให้สัญญาใหม่คล้ายสัญญาเดิมที่สุด นั่นหมายความว่าสัญญาเดิมนั้นเข้าข้างฝั่งผู้เช่ามากกว่าเจ้าของที่ดิน
แต่การที่คุณยังไม่รีบเซ็น จะทำให้คุณมีเวลาไตร่ตรอง แลกเปลี่ยนข้อมูลกับเจ้าของที่คนอื่น และมีโอกาสใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นอำนาจต่อรอง เพื่อขอค่าเช่าหรือเงื่อนไขที่ดีกว่า
ตัวเลือกของคุณ
รอจนมั่นใจแล้วค่อยเซ็น – คุณสามารถสอบถามสิ่งที่ไม่เข้าใจ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่น และค่อยเซ็นเมื่อมั่นใจ แม้จะเลยวันหมดอายุไปแล้ว คุณก็ยังได้รับค่าเช่าเดิมอยู่
การโน้มน้าว หรือเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้จริง?
เวลาตัวแทนบอกคุณว่า “รีบเซ็นเถอะ ไม่งั้นเขาจะถอนเสาแน่นอน” ส่วนใหญ่แล้วนี่คือ การโน้มน้าว หรือการพูดให้คุณกลัว เพื่อให้คุณรีบตัดสินใจเซ็นสัญญา
แต่ เรื่องที่เลี่ยงไม่ได้จริง จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อวิศวกรเครือข่ายตัดสินใจแล้วว่าเสานั้นไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อ เช่น บริเวณนั้นมีเสาอื่นใกล้กันมากจนไม่ต้องใช้ซ้ำอีก แบบนี้ถึงจะเรียกได้ว่าเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ
ดังนั้น คำพูดว่า “เลี่ยงไม่ได้” มักไม่ใช่ข้อเท็จจริง แต่เป็น กลยุทธ์กดดันให้คุณรีบเซ็น คุณจึงควรใช้เวลาไตร่ตรอง และอย่าเซ็นจนกว่าจะแน่ใจว่าสัญญาใหม่นั้นเป็นประโยชน์กับคุณจริง ๆ
- ค่าเช่าไม่ว่ามากหรือน้อย ไม่ใช่ตัวแปรหลักที่กำหนดว่าเสาจะอยู่หรือถอดออก การตัดสินใจขึ้นอยู่กับวิศวกรโครงข่าย โดยใช้ปัจจัยด้านภูมิศาสตร์และฟิสิกส์เป็นหลัก
- สิ่งที่คุณได้ยินว่า “ไม่มีทางเลือก” มักเป็นเพียงวิธีกดดัน ไม่ใช่ความจริงที่เลี่ยงไม่ได้
- การควบรวมกิจการ เช่น Dtac–True ทำให้มีการลดจำนวนเสาสัญญาณลง ซึ่งเป็นเรื่องซับซ้อนและต้องใช้เวลา
สรุปสุดท้าย
อย่ารีบเซ็นสัญญาเพียงเพราะถูกเร่งรัด หากผู้เช่ายังใช้พื้นที่อยู่ คุณก็ยังได้ค่าเช่าเดิม และกฎหมายก็อยู่ข้างคุณ การใช้เวลาไตร่ตรองและเจรจา อาจทำให้คุณได้สัญญาที่คุ้มค่ากว่า